น้ำหวานดอกมะพร้าว คืออะไร

น้ำหวานดอกมะพร้าวแท้จะได้มาจากช่อดอกอ่อนของมะพร้าว หรือ ภาษาชาวบ้านจะเรียกว่า งวง หรือ จั่น ซึ่งดอกอ่อนที่เอามาทำน้ำตาลได้นั้นจะต้องเป็นดอกที่ยังไม่มีการผสมหรือมีเปลือกแข็งห่อหุ้ม แล้วนำเอาน้ำตาลที่ได้มาแปรรูปให้มีลักษณะเป็นผงเพื่อให้ผู้บริโภครับประทานได้ง่าย สะอาดถูกหลักอนามัยแถมยังไม่มีส่วนผสมของสารเคมี นับได้ว่าเป็นน้ำตาลดอกมะพร้าว “ชาวบ้าน” เป็นการผสมผสานระหว่างอัตลักษณ์ไทยและเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว หลายคนยังจะยังไม่คุ้นหูเมื่อเอ่ยคำนี้ เพราะเมื่อพูดถึงน้ำตาล แน่นอนว่าหลายคนก็คงจะนึกถึงน้ำตาลทั่วไปที่เป็นตัวการของความอ้วนและการเกิดเบาหวาน แต่รู้ไหมว่า น้ำตาลดี ๆ ที่มีประโยชน์และไม่ทำให้อ้วนหรือเสี่ยงเบาหวานก็มีเหมือนกันซึ่งนั่นก็คือ น้ำตาลดอกมะพร้าวนั่นเอง โดยเป็นน้ำตาลธรรมชาติที่ได้จากการสกัดจากดอกมะพร้าวจึงมีความปลอดภัยและอุดมไปด้วยสารอาหารอย่างครบถ้วน แถมมีแคลอรี่ต่ำกว่าน้ำตาลทั่วไปอีกด้วยว่าแต่ ประโยชน์ของน้ำตาลดอกมะพร้าวมีอะไรบ้าง กินแล้วอ้วนไหม? เอาเป็นว่ามาทำความรู้จักกับน้ำตาลดอกมะพร้าวสารอาหารในน้ำตาลดอกมะพร้าวในน้ำตาลดอกมะพร้าว

อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย โดยสารอาหารหลัก ๆ ได้แก่

โปแตสเซียม : เป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลโดยตรง แถมยังช่วยควบคุมความดันให้อยู่ในระดับที่ปกติ

ธาตุเหล็ก : เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายมีความแข็งแรง เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ลดอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลียได้เป็นอย่างดี และช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงอีกด้วย

ทองแดง : ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมพลังงานและปรับระบบการขับถ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อดีของการเปลี่ยนมากินน้ำหวานดอกมะพร้าว

-ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

-ปรับสมดุลให้กับร่างกาย

-เสริมสร้างภูมิต้านทาน อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น

-แคลเลอรี่ต่ำกว่าน้ำตาลทั่วไป

ความแตกต่างน้ำตาลมะพร้าว vs น้ำตาลโตนด

ก่อนอื่นเลยเราต้องบอกว่าต้นมะพร้าวและต้นตาลเป็นไม้ที่มาจากตระกูลเดียวกัน ซึ่งความหวานของน้ำตาลช่อดอกมะพร้าวนั้นเป็นของเหลวที่ออกมาจากดอกอ่อนของต้นมะพร้าว และน้ำตาลโตนดนั้นก็มาจากของเหลวที่ไหนออกมาจากดอกของต้นตาลนั้นเอง น้ำตาลทั้งสองชนิดนี้ เป็นน้ำตาลที่ถูกผลิตออกมาจากธรรมชาติเช่นเดียวกัน มีลักษณะเฉพาะตัว และให้คุณประโยชน์ที่สำคัญต่อร่างกาย และมีแคลอรีต่ำช่วยรักษาสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยในเรื่องของอาการเจ็บคอ หรือแก้อาการร้อนในได้เป็นอย่างดี แต่ถึงเป็นน้ำตาลเหมือนกันแต่รสชาติความหวานนั้นไม่เหมือนกัน เพราะน้ำตาลช่อดอกมะพร้าวจะให้รสหวานที่อ่อนละมุนลิ้นมากกว่าน้ำตาลโตนด (จากรสสัมผัสของแต่ละบุคคลที่เคยชิมทั้งน้ำตาลช่อดอกมะพร้าวและน้ำตาลโตนด) และลักษณะของน้ำตาลช่อดอกมะพร้าวที่ผลิตออกมามีถึง 2 ลักษณะด้วยกัน ซึ่งแบบแรกจะเป็นแบบเนื้อละเอียดที่ทำออกมาหลากหลายรูปแบบ เช่น ปี๊บ ปึก แว่น เป็นต้น และ โคบี้ บราวน์ ได้พัฒนาน้ำตาลช่อดอกมะพร้าวแบบดั้งเดิมมาผสมผสานกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์จนออกมาเป็นรูปแบบเกล็ด (Granulated) และแบบละเอียด (Caster Sugar) รวมทั้งเรายังคงรสชาติของน้ำตาลช่อดอกมะพร้าวไว้อีกด้วย เพื่อให้เหมาะสำหรับใส่ปรุงกับอาหารตามสไตล์ที่เพื่อนๆ ทุกคนชอบได้เลย ด้วยเนื้อละเอียดของน้ำตาลแบบนี้จะช่วยให้มีการละลายได้เทียบเท่ากับน้ำตาลทรายทั่วไปไม่ต้องใช้เวลานานในการปรุงอาหารอย่างแน่นอน ส่วนแบบที่สองนั้นก็คือแบบน้ำหวาน (Syrup) มีลักษณะเป็นของเหลวข้นสีน้ำตาล ซึ่งเพื่อนๆ สามารถนำไปใส่ในเครื่องดื่มอย่างชานมไข่มุก กาแฟถ้วยโปรด ทานคู่กับขนมปังแสนอร่อย หรือจะใช้แทนน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งทั่วไป