อยู่เมืองไทยไปที่ไหนก็เจอมะพร้าว ยิ่งเวลาอากาศร้อนๆ สิ่งที่เรานึกถึงมะพร้าวได้เป็นอย่างแรกคือ การได้ดื่มน้ำมะพร้าวสด ๆ รสชาติที่หวานชื่นใจ กลิ่นหอม ช่วยคลายร้อนได้ดี แต่ใครจะรู้คะว่ามะพร้าวสามารถทำอะไรกินได้บ้างนอกจากกินน้ำมะพร้าว
หลังจากที่เรารู้ส่วนประกอบของมะพร้าว 1 ต้น แล้ว เรามาทำความรู้จักกับมะพร้าวแกงกันค่ะ ซึ่งการจะทำแกงกะทิสักอย่าง เราต้องใช้มะพร้าวแกง เพราะต้องนำมะพร้าวมาขูดเอาน้ำกะทิไปใช้ในการทำเมนูอาหาร
มะพร้าวแกง จะมีผลสีนำ้ตาล น้ำน้อยไม่นิยมนำมาดื่มทาน เพราะมีรสชาติเปรี้ยว เนื้อหนา และมัน แต่สามารถนำไปคั้นเป็นกะทิได้ดี เหมาะสำหรับนำไปแกง หรือไปใช้ในขนมไทยต่าง ๆ ปัจจุบันนำมาประยุกต์ใช้กับขนมนานาชาติทั่วไปได้ด้วย
คนไทยเรามีความผูกพันกับการใช้กะทิที่ได้จากมะพร้าวแกงในการประกอบอาหารมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่นอกจากกะทิแล้ว รู้ไหมคะว่ามะพร้าวแกงที่เรารู้จักยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ได้อีกเยอะเลยค่ะ
มะพร้าวแกงประกอบไปด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์มากมาย เรียกได้ว่าใช้กันได้ทั้งลูกเลยทีเดียว เรามาดูประโยชน์ของมะพร้าวแกงกันเลยดีกว่าค่ะ
1. กาบมะพร้าว
กาบมะพร้าวแห้งสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ดีในการจุดไฟ นอกจากนี้ขี้เถ้าจากกาบมะพร้าวยังสามารถนำมาใช้ในการทำขนมไทยอีกด้วย เช่น ขนมเปียกปูน เป็นต้น
2. น้ำมะพร้าว
รสชาติ และปริมาณของน้ำมะพร้าวจะมีน้อยกว่ามะพร้าวอ่อน แต่ยังสามารถดื่มได้ และนิยมนำมาเป็นส่วนผสมในการปรุงอาหาร เพราะในน้ำมะพร้าวที่ได้จากน้ำมะพร้าวแกงมีสารที่เรียกว่า "อิเล็กโทรไลต์" ซึ่งช่วยฟื้นฟูความเมื่อยล้า และน้ำในที่ร่างกายสูญเสียไป เช่น เหงื่อเวลาออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมีประโยชน์กับการสร้างกล้ามเนื้อ และดูแลระบบขับถ่ายได้อีกด้วย
3. กะลามะพร้าว
กะลามะพร้าว สามารถนำมาใช้เป็นภาชนะใส่อาหาร หรือเมื่อนำมาขัด และเคลือบให้เงาวาวก็สามารถทำเป็นเครื่องประดับ หรือของตกแต่งบ้านได้อีกด้วย
4. เนื้อมะพร้าว
เนื้อมะพร้าวแกงมีรสหอม มัน เนื้อหนา มักนิยมนำไปขูดฝอย แล้วคั้นเป็นน้ำกะทิ นำไปประกอบอาหารหวาน คาว หรือใช้ทำกระฉีกโรยหน้าขนม
ของเหลวที่ได้จากการใช้น้ำ คั้น หรือ สกัด (extraction) ส่วนเนื้อแก่ของมะพร้าว มีส่วนประกอบหลัก คือ ไขมัน ซึ่งอยู่ในรูปของอิมัลชัน (emulsion) และของแข็งต่าง ๆ เช่น โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ เป็นของเหลวสีขาวขุ่นที่ได้จากการบีบคั้นเนื้อมะพร้าวขูด โดยการเติมหรือไม่เติมน้ำ ส่วนประกอบที่สำคัญของน้ำกะทิ คือ น้ำมัน น้ำ โปรตีน และน้ำตาล
วัตถุดิบ
กุ้งกุลาดำตัวใหญ่ หรือกุ้งแม่น้ำ
มะพร้าวอ่อน
เห็ดฟางผ่าครึ่ง
พริกขี้หนู
ใบมะกรูดฉีกเอาก้านออก
ข่าหั่นแว่น
ตะไคร้ทุบแล้วหั่นท่อน
ผักชี โรยหน้า
น้ำพริกเผา 1 ช้อนชา
มะนาว 1 ลูก
กะทิ 1/2 ถ้วย
น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 หยิบมือ
น้ำซุป (ถ้าไม่มีเป็นซุปสำเร็จรูปกับน้ำเปล่า)
วิธีทำ
1. แกะเปลือกกุ้งผ่าเอาเส้นดำออกล้างให้สะอาด หั่นเครื่องต้มยำ พริก ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และเห็ด ให้พร้อม
2. นำน้ำซุปไปตั้งไฟให้เดือด จากนั้นใส่กะทิ และเครื่องต้มยำลงไปให้หมด พอเดือดอีกครั้งก็ใสกุ้งที่เตรียมไว้ลงไปเลย
3. หลังจากใส่กุ้งลงไปแล้ว ให้ใส่ น้ำตาล น้ำปลา พริกขี้หนู พริกเผา ใครชอบรสแบบไหนใส่ลงไปตามชอบ ตามด้วยเห็ดฟาง และมะพร้าวอ่อน
4. ปิดเตาแล้วค่อยปรุงด้วยมะนาว (เคล็ดลับการบีบน้ำมะนาว ไม่ควรใส่มะนาวในน้ำที่กำลังเดือด เพราะจะทำให้มะนาว และน้ำซุปมีรสขม) โรยเกลือนิดหน่อยเพื่อดึงรสเปรี้ยวหวานเค็มให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
5. จัดชามเสิร์ฟ หั่นผักโรยหน้า เพิ่มความหอม